top of page
  • Facebook
  • Youtube
  • Email
ค้นหา

บทความเดียวดายใต้ทุนนิยม: ทางออกของเกษตรกรท่ามกลางวิกฤต PM2.5

โดย บริษัท วีอาร์พี ดีเวลลอปเม้นท์ โฮลดิ้งส์ จำกัด


การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร: ทางเลือกที่ถูกจำกัด

การเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นวิธีการที่เกษตรกรใช้กันมาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุผลหลักคือเป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพในการกำจัดเศษซากพืชผลหลังการเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตาม เมื่อสังคมและอุตสาหกรรมพัฒนาไป ค่า PM2.5 ที่เกิดจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดการกล่าวโทษว่าเกษตรกรเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหามลพิษทางอากาศ

แม้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาการเผา เช่น การส่งเสริมการไถกลบและการใช้จุลินทรีย์เพื่อย่อยสลายเศษวัสดุ แต่แนวทางเหล่านี้ยังคงมีข้อจำกัดที่สำคัญ ไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ และไม่สามารถทดแทนวิธีการเผาได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายที่บังคับใช้กับเกษตรกรกลับไม่มีแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการจัดหานวัตกรรมหรือตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพให้พวกเขาอย่างแท้จริง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่งยังคงปล่อย PM2.5 ในปริมาณมหาศาลโดยไม่ได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ


เกษตรกร: เหยื่อของโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม

เมื่อสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 รุนแรงขึ้น เกษตรกรกลับตกเป็นเป้าหมายของการกล่าวโทษจากสังคม โดยเฉพาะชาวนาที่ถูกมองว่าเป็นผู้กระทำผิดหลักในการก่อให้เกิดมลพิษ ทั้งที่ในความเป็นจริง ค่า PM2.5 มีแหล่งกำเนิดหลายทาง รวมถึงการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมและยานพาหนะที่ไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด

เกษตรกรต้องทำงานภายใต้ระบบทุนนิยมที่บีบคั้น พวกเขาต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากปุ๋ย สารเคมี และเครื่องจักรทางการเกษตร ขณะที่ราคาผลผลิตกลับถูกควบคุมโดยกลไกตลาดและพ่อค้าคนกลาง พวกเขาสร้างรายได้ให้ประเทศผ่านการส่งออกสินค้าเกษตร แต่ผลกำไรกลับตกอยู่ในมือของกลุ่มนายทุน ในขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในวงจรความยากจนและถูกผลักให้กลายเป็นจำเลยของสังคมอย่างไม่เป็นธรรม


แนวทางแก้ไข: ความยั่งยืนที่แท้จริง

การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จำเป็นต้องมีแนวทางที่ครอบคลุมและเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงแค่การกำหนดนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยไม่มีทางเลือกที่เหมาะสม การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อลดการปล่อย PM2.5 จากยานพาหนะและอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน เป็นแนวทางที่ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน

ที่สำคัญไปกว่านั้น การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง ระบบทุนนิยมที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนโดยละเลยความเป็นอยู่ของเกษตรกรต้องถูกตรวจสอบและปรับเปลี่ยน การสร้างกลไกตลาดที่เป็นธรรม การส่งเสริมให้เกษตรกรมีอำนาจในการต่อรองราคาสินค้า และการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ล้วนเป็นแนวทางที่สามารถช่วยให้เกษตรกรมีทางออกจากวังวนของปัญหานี้ได้


บทสรุป: อย่าปล่อยให้เกษตรกรต้องเดียวดาย

การกล่าวโทษเกษตรกรว่าเป็นต้นเหตุหลักของ PM2.5 โดยไม่พิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ เป็นการผลักภาระให้กับกลุ่มคนที่มีทางเลือกน้อยที่สุด ระบบที่ทำให้เกษตรกรต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ขณะที่นายทุนและอุตสาหกรรมยังคงสร้างผลกำไรโดยไม่ต้องรับผิดชอบอย่างเป็นธรรม จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดวาทกรรมที่กล่าวโทษเกษตรกร และหันมาสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นธรรมและยั่งยืนอย่างแท้จริง มิฉะนั้น เราอาจต้องเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมและสังคมที่รุนแรงขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น

 

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
นวัตกรรมสีเขียวเพื่อนำประเทศไทยเข้าสู่เส้นทางพลังงานสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ความมั่นคงของเศรษฐกิจและสังคม (Thailand’s Roadmap to Clean energy, Pure air, Economic and Social stability)

โดย บริษัท วีอาร์พี ดีเวลลอปเม้นท์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ประเทศไทยมีเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยวในพื้นที่การเพาะปลูกจำนวนกว่า...

 
 
 
ปัญหา PM2.5 ในประเทศไทยและการใช้ชีวมวลอัดเม็ด (biomass pellet หรือ wood pellet) ในการแก้ไขปัญหา

โดย บริษัท วีอาร์พี ดีเวลลอปเม้นท์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือที่รู้จักกันในชื่อ...

 
 
 

Comments


ติดต่อเรา

(+66)65-069-0634, 02-0023585

เลขที่ 85/4 หมู่ที่ 6 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย

ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110

bottom of page